โซลาร์ รูฟท็อป” พลังงานทางเลือกดาวรุ่ง
รัฐบาลหนุนการผลิตไฟฟ้าจากโซล่ารูฟท็อป ปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารวม 200 เมกะวัตต์ พร้อมมีมาตรการจูงใจทั้ง Feed in tariff และมาตรการทางภาษีเพิ่มเติม มั่นใจส่งเสริมได้ตามเป้า
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ปิดรับสมัครการยื่นคำขอเพื่อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือ โซล่ารูฟท็อป (Solar Rooftop) สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย และอาคารธุรกิจ หรือ โรงงานไปแล้ว ด้วยปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารวม 200 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น บ้านอยู่อาศัย ที่มีขนาดติดตั้ง 0-10 กิโลวัตต์ จำนวน 100 เมกะวัตต์ และอาคารธุรกิจขนาดเล็ก -กลาง -ใหญ่ ที่ติดตั้ง 10-1,000 กิโลวัตต์ จำนวน 100 เมกะวัตต์
โดยอัตรารับซื้อไฟฟ้าเป็นไปตามต้นทุนจริง หรือ Feed in tariff 25 ปี ราคา 6.16-6.96 บาทต่อหน่วยสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 6.96 บาทต่อหน่วย กำลังการผลิตไฟไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ ธุรกิจขนาดเล็กผลิตไฟไม่เกิน 25 กิโลวัตต์ อยู่ที่ 6.55 บาทต่อหน่วย และธุรกิจขนาดกลาง และใหญ่อยู่ที่ 6.16 บาทต่อหน่วย โดยมีระยะเวลาอุดหนุนค่าไฟทั้งสิ้น 25 ปี และอัตราดังกล่าวจะประกาศใช้ระหว่างปี 2556-2557 ซึ่งหากต้นทุนต่างๆ ลดลงอัตราดังกล่าวจะต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทุกปี ซึ่งแผนส่งเสริมครั้งนี้จะกระทบต่อค่าไฟฟ้าเพียง 0.50 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ภายใน 31 ธันวาคมนี้
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการภาษีเพื่อจูงใจให้มีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง อาจเป็นการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยการสนับสนุนทำได้หลายรูปแบบมากกว่ามาตรการภาษี เช่น สิทธิประโยชน์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ภาคครัวเรือน และธุรกิจตัดสินใจง่ายขึ้นสำหรับการลงทุนติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป
โดยเฉพาะในภาวะที่ก๊าซธรรมชาติ เชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า มีแนวโน้มจะหมดจากอ่าวไทยในระยะ 10 ปีข้างหน้า พลังงานทดแทนอย่างแสงอาทิตย์ จึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นครัวเรือนหรือภาคธุรกิจ
นายบุญส่ง เกิดกลาง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เชื่อว่าการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ รูฟท็อป จะช่วยเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน และลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศลงได้ โดยมีการคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศในปี 2573 จะเพิ่มขึ้นเป็น 70,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 27,000 เมกะวัตต์ ในขณะที่ความสามารถผลิตไฟฟ้ามีเพียง 33,000 เมกะวัตต์ และตามเป้าหมายของรัฐบาลต้องการจะให้ครัวเรือน ชุมชน และภาคอุตสาหกรรม ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใช้เองด้วย และมีรายได้จากการขายไฟเข้าระบบ ผ่านการสนับสนุนมาตรการภาษี และอัตรารับซื้อไฟที่เหมาะสมเพื่อจูงใจให้หันมาติดตั้งกันมากขึ้น
ส่วนการส่งเสริมจะเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลคาดไว้หรือไม่นั้น คงต้องมาดูกันว่ามาตรการต่างๆ ที่ออกมาสนับสนุนนั้น จูงใจเพียงพอหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็อย่าลืมว่าการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์นั้น ถือเป็นพลังงานสะอาด ใช้ได้ไม่มีวันหมดเลยทีเดียว
หัวใจสำคัญของระบบโซลาร์รูฟท็อป
ระบบโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากคือ แผงโซลาร์เซลล์ และ อินเวอร์เตอร์ ดังนั้นเราจึงคัดสรรอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดีที่สุด มีความแข็งแรง ทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุ้มค่าต่อการลงทุนติดตั้งและถึงจุดคุ้มทุนเร็ว โดยอุปกรณ์ทุกชิ้นของระบบผลิตไฟฟ้า EVE Solar Rooftop ผลิตภายใต้แบรนด์เดียวกันทำให้มั่นใจได้ว่าท่านจะได้ระบบโซลาร์รูฟท็อปที่มีคุณภาพสูงในราคาไม่แพง และมีการรับประกันอุปกรณ์ทั้งระบบยาวนานถึง 25 ปี
แผงโซลาร์เซลล์ (Solar PV Module EVE)
แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ Poly-Crystalline เป็นแผงที่ผลิตจากผลึก Silicon ที่มีคุณสมบัติในการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 330w และ Mono-Crystalline ที่ผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 380w, 400w และ 440w โดยมีขนาดของแผง (กว้าง x ยาว) 1 x 2 เมตร ผลิตจากวัสดุเกรดดีด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้มีคุณภาพแข็งแรง คงทน ยาวนาน มีคุณสมบัติในการผลิตและจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องแม้ในสภาวะที่มีแดดน้อย
เพิ่มความแข็งแรงด้วยกรอบอลูมิเนียมอะโนไดช์ ช่วยให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ปกป้องเซลล์แสงอาทิตย์ด้วยกระจกเทมเปอร์ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษ ช่วยให้แสงผ่านถึงชั้นเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ ได้อย่างดีเยี่ยมพร้อมเคลือบด้วยสารกันการสะท้อนแสง เพื่อให้ได้การผลิตพลังงานไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
อินเวอร์เตอร์ (Solar Inverter EVE)
อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า Inverter เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญของระบบโซลาร์รูฟท็อป โดยอินเวอร์เตอร์ EVE มีขนาดตั้งแต่ 1.5 กิโลวัตต์, 3 กิโลวัตต์, 5 กิโลวัตต์ ชนิด 1 เฟส และ 3 เฟส และ 10 กิโลวัตต์ 3 เฟส เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter EVE) ผลิตและประกอบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในคุณภาพสูง ทำให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพสูง ในส่วนของโครงสร้างภายนอกผลิตจากอลูมิเนียมฉีดขึ้นรูปอย่างหนา แข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ ช่วยระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดตลอดอายุการใช้งาน รองรับการติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคารด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65
มาพร้อมกับระบบ Zero Export หรือ ชุดกันไฟไหลย้อนกลับ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน กฟน. และ กฟภ. สามารถตรวจดูสถานะการทำงานของระบบผ่านจอ LCD เช่น ค่าการผลิตกระแสไฟฟ้าแบบ Real Time และ แจ้งเตือนเมื่อระบบเกิดการขัดข้อง สามารถดูข้อมูลการทำงานได้ทุกที่ผ่านโปรแกรม EVE Solar ติดตั้งได้ทั้งระบบ iOS และ Android ทำให้สามารถดูข้อมูลการทำงานของระบบได้ตลอดเวลา
หน้าที่เข้าชม | 7,425 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 6,204 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 พ.ค. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |